The cook the thief his wife and her lover
วิเคราะห์โครงสร้างสังคมในภาพยนตร์
หนังเรื่องนี้เล่าถึงร้านภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง อัลเบิร์ด สปีกา เป็นหุ้นส่วนในภัตตาคารแห่งนี้ เขาเป็นคนอยากได้อะไรก็ต้องได้ ชอบดูถูกคนอื่น และป่าเถื่อน จีน่า สปีกา ภรรยาของอัลเบิร์ด จึงตกเป็นที่บันดาลโทสะของเขาเสมอ
เรื่องราวความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่ออัลเบิร์ด พาGeorginaและลูกน้องไปทานอาหารในภัตตาคาร จีน่า สปีกา จึงได้พบกับไมเคิล ลูกค้าประจำของร้านอาหารร้านนี้ พวกเขาทั้งสองได้แอบไปมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน โดยมีพนักงานในภัตตาคารช่วยกันปกปิดเรื่องนี้
ในที่สุดความจริงก็ผูกเปิดเผย ไมเคิลและจอจีน่าจึงตัดสินใจหนีไปด้วยกันโดยได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานในภัตตาคาร แต่อัลเบิร์ดก็ตามหาไมเคิลจนเจอและฆ่าเขาด้วยวิธีที่ป่าเถื่อนที่สุด หลังจากไมเคิลตาย อัลเบิร์ดถูกจอจีนาบังคับให้กินศพของไมเคิลซึ่งถูกทำเป็นอาหาร และฆ่าเขาเสีย
หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวของคนในสังคมปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม คือ เรื่องชนชั้นและฐานะทางสังคม คนจนมักจะตกเป็นเหยื่อของคนรวยหรือผู้มีอิทธิพลเสมอ ตัวอย่างเช่น อัลเบิร์ด ทำร้ายและป้ายอุจจาระของสุนัขลงบนตัวของผู้ชายคนหนึ่ง เหตุผลเพราะเขาไม่คืนเงินที่ยืมไป , อัลเบิร์ด มักจะใช้อำนาจขับไล่ละกลั่นแกล้งคนในภัตตาคาร เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นเจ้าของภัตตาคารแห่งนี้จึงจะทำอะไรกับใครก็ได้
ถึงแม้ว่าอัลเบิร์ดจะมีนิสัยป่าเถื่อน ชอบข่มเหง ก้าวร้าวและชอบใช้อำนาจ แต่ก็ยังมีคนที่พร้อมจะทนกับการกระทำของเขา นั่นก็คือลูกน้องของเขานั่นเอง พวกเขาตามประจบอัลเบิร์ดเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่แล้วก็ไม่มีใครทนนิสัยของอัลเบิร์ดได้ แม้กระทั่งจอจีน่า ภรรยาของอัลเบิร์ด
วิเคราะห์การใช้สี
ลูกเล่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่สีในฉาก ในแต่ละฉากจะมีสีที่ต่างกันออกไป คล้ายกับฉากในคะครเวที โดยใช้สีสื่อให้เห็นถึงบรรยากาศของฉากแต่ละฉากเพื่อทำให้คนดูรู้สึกถึงบรรยากาศขณะนั้น
ฉากสีแดงในห้องอาหาร ให้ความรู้สึก