นิทานอาเซียน ประเทศเวียดนาม เรื่อง จอมกะล่อนกาลครั้งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มค การแปล - นิทานอาเซียน ประเทศเวียดนาม เรื่อง จอมกะล่อนกาลครั้งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มค ไทย วิธีการพูด

นิทานอาเซียน ประเทศเวียดนาม เรื่อง

นิทานอาเซียน ประเทศเวียดนาม เรื่อง จอมกะล่อน

กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง คนพากันเรียกว่า จอมกะล่อน เขาเป็นเด็กฉลาด แต่ก็เหมือนกับชื่อของเขาที่บอกกล่าวไว้ล่วงหน้า คือ เขาใช้ความฉลาดส่วนใหญ่ไปในการเที่ยวพูดโป้ปดมดเท็จต่างๆนานา เขาสนุกสนานกับการหลอกคนอื่นได้รอบบ้าน ไม่มีผู้ใดรอดจากการเป็นเหยื่อให้เขาหลอกต้มไปได้เลย แม้แต่ป้าและลุงผู้ซึ่งเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่หลังจากพ่อแม่ของเขาตายจากไป

วันหนึ่งลุงของเขาออกไปไถนา ซึ่งอยู่ห่างจากบ่านไปไม่ไกลนัก ส่วนป้าก็อยู่บ้านทำงานบ้าน ขณะที่เขาเฝ้าดูป้าทำอะไรง่วนอยู่ในครัว พ่อจอมกะล่อนก็เกิดความคิดแวบขึ้นมา นึกกลวิธีที่จะล้อป้าและลุงของตนออกมาได้อย่างหนึ่ง เขารีบย่องออกจากบ้านวิ่งไปท้องนาที่ลุงกำลังไถอยู่

"ลุงครับ ลุง" เขาตะโกนเรียกลุงเมื่อเขาวิ่งไปถึงนา

"กลับบ้านเดี๋ยวนี้เร็วๆเข้า ป้าตกกระไดลงมา เลือดโชกทีเดียว ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี"

ลุงเผ่นผลุงกลับบ้านทันทีโดยไม่ทันพูดอะไรสักคำ แต่พ่อจอมมุสากลับวิ่งไปตามทางลัดตัดถึงบ้านก่อนหน้าลุงจะไปถึง เขาวิ่งถลันเข้าไปในบ้าน ตะโกนลั่น

"ป้าครับป้า ลุงถูกควายขวิดที่ท้องนาแน่ะ ดูเหมือนขวิดเอาท้องทะลุเลย ไปเร็วๆเถอะครับเดี๋ยวลุงจะตายเสีย"

เขาพูดยังไม่ทันจบ ป้าก็วิ่งถลาออกจากบ้านไปแล้ว เขามองตามหลังป้าไปแล้วก็หัวเราะยิงฟันสนุกสุขใจเป็นกำลัง และเข้าไปหลบซ่อนอยู่หลังบ้าน

ป้าออกวิ่ง วิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาจะพาตัวแกไปไหว กระนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ทันใจ พอถึงหัวเลี้ยวตรงมุมถนน ป้าก็ชนโครมเข้าให้กับใครคนหนึ่ง สามีของป้านั่นเอง กำลังหอบแฮ่กๆเหงื่อโซมกาย ทั้งคู่มองดูกันอย่างตะลึงพรึงเพริดพูดไม่ออก

"ไอ้จอมโกหกนั่นอีกแล้ว" ทั้งสองคนรู้ทันทีว่าโดนเล่ห์เก๊ของเจ้าหลานชายเข้าอีกแล้ว ทั้งลุงและป้าโมโหโกรธาใหญ่

"ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเสียทีที่จะยอมให้อ้ายตัวร้ายมันหลอกเรา" ลุงพูดออกมา

แล้วทั้งสองคนก็เข้าบ้าน พบพ่อจอมกะล่อนซ่อนอยู่หลังบ้าน จึงลากตัวมาใส่ลงในกรงไม้ไผ่กรงใหญ่ ปิดฝาเสียแน่นหนา

"อยู่ในนี้แหละ จนกว่าตะวันจะตกดิน" ลุงว่า "แล้วป้าของเจ้ากับข้าจะลากกรงไปโยนลงแม่น้ำ เจ้าจะได้ไม่เที่ยวพูดโกหกพกลมหลอกใครๆอีก"
ตกเย็นป้าและลุงก็หามกรงไปที่แม่น้ำ ขณะที่โยนลงในแม่น้ำ พ่อจอมกะล่อนก็ร้องออกมาว่า

"คุณลุงคุณป้าครับ ผมรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ผมก็พร้อมแล้วที่จะก้มหน้ารับโทษ แต่ได้โปรดทำอะไรให้ผมสักอย่างเป็นครั้งสุดท้ายเถิดครับ ผมมีหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อศิลปะแห่งการพูดปด ผมแอบเก็บไว้ข้างหลังกระบุงข้าวที่ในบ้าน ขอหนังสือเล่มนั้นให้ผมก่อนเถิดครับ ผมจะได้เอาไปอ่านในนรกด้วย"

ทั้งลุงทั้งป้าต่างก็ไม่ใจร้ายที่จะปฎิเสธคำขอร้องสุดท้ายของหลานชายได้ลงคอ นอกจากนั้นลุงก็ชักอยากจะรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นบอกไว้ว่ากระไรบ้าง ลุงและป้าจึงกลับบ้านไปเอาหนังสือมาให้หลานชาย ขณะที่ยอดกระล่อนคอยอยู่ในกรง ชายตาบอดคนหนึ่งก็เดินมาตามริมแม่น้ำ เด็กหนุ่มก็ตะโกนเรียก

"คุณตาบอดครับ โปรดมาทางนี้หน่อยครับ ถ้าคุณอยากให้นัยน์ตามองเห็นอีก"

ชายตาบอดได้ยินเสียงเรียกก็คลำทางมาที่กรงไม้ไผ่ เด็กหนุ่มก็บอกว่า

"เร็วๆหน่อยครับ รีบแก้เชือกที่ฝากรงก่อน แล้วผมจะบอกวิธีรักษาตาของคุณให้หายบอด"

ชายตาบอดเอามือคลำๆกรงไป จนในที่สุดก็จัดการเปิดฝาออกมาได้ ทันทีที่ฝากรงเปิด พ่อจอมกระล่อนก็กระโดดผลุงออกจากกรงวิ่งอ้าวไปเสียแล้ว เมื่อลุงกับป้ากลับมาหมายจะบอกหลานชายว่าหาหนังสือไม่พบ หลานชายก็หายไปจากกรงเสียแล้ว เห็นแต่ชายตาบอดมายืนอยู่แทนที่ คอยรับรู้ว่าจะรักษานัยน์ตาด้วยวิธีใด ทั้งสามคนโดนตุ๋นอีกครั้งหนึ่งจนได้

ยอดกระล่อนวิ่งฝ่าเข้าไปในกอไม้ไผ่กอหนาใกล้แม่น้ำนั้น ขณะที่เขาเดินเที่ยวสำรวจหาทางออกจากกอไผ่ บังเอิญไปพบหม้อเก่าๆเข้าใบหนึ่ง ในหม้อมีทองคำเต็ม โชคดีเสียนี่กระไร เขาเอาทองกลับบ้านไปให้ป้ากับลุง

น่าขอบใจมหาสมบัตินั่นแท้ๆ ครอบครัวของเขาร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ตอนนี้ป้ากับลุงยอมรับแล้วว่า ยิ่งดุด่าหลานชายเท่าใด ก็ไม่ทำให้เด็กคนนั้นเปลี่ยนนิสัยของเขาได้เลย ทั้งสองคนจึงคิดว่า บางทีถ้าเราหาผู้หญิงที่ดีๆ ให้แต่งงานกับมันสักคนหนึ่ง เจ้าเด็กหนุ่งนี่อาจยุติการปั้นน้ำเป็นตัว เลิกเที่ยวเตร่ไม่ทำการทำงานเสียได้กระมัง

แกจึงให้หลานชายแต่งงานกับสาวนางหนึ่งในหมู่บ้าน ดูท่าว่าการแต่งงานจะช่วยแก้ปัญหาไปได้ระยะหนึ่ง แต่สองสามเดือนต่อมาป้าและลุงเกิดตายลง พ่อจอมกระล่อนเริ่มเที่ยวโป้ปดมดเท็จหลองโกงผู้คนต่อไปเหมือนอย่างเคยอีก

วันหนึ่งเขาเข้าไปเตร็ดเตร่อยู่ในป่า ไปพบเอาลูกเสือสองสามตัวนอนอยู่บนหญ้า เนื่องจากเขาเป็นหนุ่งนิสัยเลว จึงจับลูกเสือเหล่านั้นมาหักอุ้งเท้ามันเสีย ลูกเสือพากันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลัน เขาก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่าสะพึงกลัวออกมาจากที่ใดที่หนึ่งใกล้ๆ คงเป็นแม่ของลูกเสือเหล่านั้นนั่นเอง จอมมุสาจึงรีบวิ่งไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้..........

ชั่วครู่ต่อมาเสือแม่ลูกอ่อนก็วิ่งมาหาลูก พอเห็นลูกกำลังเจ็บปวดทุรนทุรายเพราะอะไร มันก็คาบลูกไปที่โคนต้นไม้เล็กๆต้นหนึ่ง ซึ่งมีใบสีเขียวๆ มันทึ้งใบไม้สองสามใบจากต้นใส่ปากเคี้ยว แล้วก็คาบใบไม้ในปากออกใส่อุ้งเท้าของลูกๆ แล้วพ่อยอดกระล่อนก็อัศจรรย์ใจเหลือ ที่ภายในไม่กี่นาทีแผลของลูกเสือก็หายเป็นปลิดทิ้งเจ้าหนุ่มคอยทีอยู่จนเสือทั้งแม่ลูกไปแล้ว เขาก็ขุดต้นไม้นั้นนำมาบ้าน เอามาปลูกในสนาม ตั้งชื่อว่า ต้นไทร

นับแต่วันนั้นมา เขาเฝ้าดูแลต้นไม้อย่างระวังระไว บอกแก่ภรรยาว่า เทพเจ้าให้ต้นไม้นี้แก่เขา ใบของมันรักษาแผลได้ทุกชนิด รักษาโรคภัยได้สารพัดแม้กระทั่งช่วยคนตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมาก็ยังได้ ขอให้ภรรยาของเขาคอยรักษาต้นไม้ให้สะอาดสะอ้าน

" อย่าเอาขยะมูลฝอยไปเทที่โคนต้นนะ ถ้าขืนทำต้นไม้จะเหาะหนีไปเสีย เขาพร่ำเตือนแล้วเตือนอีก

แรกๆภรรยาก็ทำตามที่สามีบอก แต่ไม่ช้านางก็ขัดใจกับสามีที่รักต้นไม้มากกว่าตัวนาง นางเบื่อที่จะฟังคำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าของสามีอลู่แล้วด้วย วันหนึ่งเกิดวิวาทกันขึ้นเรื่องต้นไม้ นางจึงอารมณ์เสียสุดจะยับยั้ง ตะโกนใส่เขาว่า " ข้าจะเอาขยะไปเทใส่ต้นไม้เสียเมื่อไ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
นิทานอาเซียนประเทศเวียดนามเรื่องจอมกะล่อนกาลครั้งหนึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งคนพากันเรียกว่าจอมกะล่อนเขาเป็นเด็กฉลาดแต่ก็เหมือนกับชื่อของเขาที่บอกกล่าวไว้ล่วงหน้าคือเขาใช้ความฉลาดส่วนใหญ่ไปในการเที่ยวพูดโป้ปดมดเท็จต่างๆนานาเขาสนุกสนานกับการหลอกคนอื่นได้รอบบ้านไม่มีผู้ใดรอดจากการเป็นเหยื่อให้เขาหลอกต้มไปได้เลยแม้แต่ป้าและลุงผู้ซึ่งเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่หลังจากพ่อแม่ของเขาตายจากไป วันหนึ่งลุงของเขาออกไปไถนาซึ่งอยู่ห่างจากบ่านไปไม่ไกลนักส่วนป้าก็อยู่บ้านทำงานบ้านขณะที่เขาเฝ้าดูป้าทำอะไรง่วนอยู่ในครัวพ่อจอมกะล่อนก็เกิดความคิดแวบขึ้นมานึกกลวิธีที่จะล้อป้าและลุงของตนออกมาได้อย่างหนึ่งเขารีบย่องออกจากบ้านวิ่งไปท้องนาที่ลุงกำลังไถอยู่ เขาตะโกนเรียกลุงเมื่อเขาวิ่งไปถึงนา "ลุงครับลุง" "กลับบ้านเดี๋ยวนี้เร็วๆเข้าป้าตกกระไดลงมาเลือดโชกทีเดียวผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี" ลุงเผ่นผลุงกลับบ้านทันทีโดยไม่ทันพูดอะไรสักคำแต่พ่อจอมมุสากลับวิ่งไปตามทางลัดตัดถึงบ้านก่อนหน้าลุงจะไปถึงเขาวิ่งถลันเข้าไปในบ้านตะโกนลั่น "ป้าครับป้าลุงถูกควายขวิดที่ท้องนาแน่ะดูเหมือนขวิดเอาท้องทะลุเลยไปเร็วๆเถอะครับเดี๋ยวลุงจะตายเสีย" เขาพูดยังไม่ทันจบป้าก็วิ่งถลาออกจากบ้านไปแล้วเขามองตามหลังป้าไปแล้วก็หัวเราะยิงฟันสนุกสุขใจเป็นกำลังและเข้าไปหลบซ่อนอยู่หลังบ้าน ป้าออกวิ่งวิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาจะพาตัวแกไปไหวกระนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ทันใจพอถึงหัวเลี้ยวตรงมุมถนนป้าก็ชนโครมเข้าให้กับใครคนหนึ่งสามีของป้านั่นเองกำลังหอบแฮ่กๆเหงื่อโซมกายทั้งคู่มองดูกันอย่างตะลึงพรึงเพริดพูดไม่ออก "ไอ้จอมโกหกนั่นอีกแล้ว" ทั้งสองคนรู้ทันทีว่าโดนเล่ห์เก๊ของเจ้าหลานชายเข้าอีกแล้วทั้งลุงและป้าโมโหโกรธาใหญ่ ลุงพูดออกมา "ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเสียทีที่จะยอมให้อ้ายตัวร้ายมันหลอกเรา" แล้วทั้งสองคนก็เข้าบ้านพบพ่อจอมกะล่อนซ่อนอยู่หลังบ้านจึงลากตัวมาใส่ลงในกรงไม้ไผ่กรงใหญ่ปิดฝาเสียแน่นหนา "อยู่ในนี้แหละจนกว่าตะวันจะตกดิน" ลุงว่า "แล้วป้าของเจ้ากับข้าจะลากกรงไปโยนลงแม่น้ำเจ้าจะได้ไม่เที่ยวพูดโกหกพกลมหลอกใครๆอีก" ตกเย็นป้าและลุงก็หามกรงไปที่แม่น้ำขณะที่โยนลงในแม่น้ำพ่อจอมกะล่อนก็ร้องออกมาว่า "คุณลุงคุณป้าครับผมรู้ตัวว่าผิดไปแล้วผมก็พร้อมแล้วที่จะก้มหน้ารับโทษแต่ได้โปรดทำอะไรให้ผมสักอย่างเป็นครั้งสุดท้ายเถิดครับผมมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อศิลปะแห่งการพูดปดผมแอบเก็บไว้ข้างหลังกระบุงข้าวที่ในบ้านขอหนังสือเล่มนั้นให้ผมก่อนเถิดครับผมจะได้เอาไปอ่านในนรกด้วย" ทั้งลุงทั้งป้าต่างก็ไม่ใจร้ายที่จะปฎิเสธคำขอร้องสุดท้ายของหลานชายได้ลงคอนอกจากนั้นลุงก็ชักอยากจะรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นบอกไว้ว่ากระไรบ้างลุงและป้าจึงกลับบ้านไปเอาหนังสือมาให้หลานชายขณะที่ยอดกระล่อนคอยอยู่ในกรงชายตาบอดคนหนึ่งก็เดินมาตามริมแม่น้ำเด็กหนุ่มก็ตะโกนเรียก "คุณตาบอดครับโปรดมาทางนี้หน่อยครับถ้าคุณอยากให้นัยน์ตามองเห็นอีก" ชายตาบอดได้ยินเสียงเรียกก็คลำทางมาที่กรงไม้ไผ่เด็กหนุ่มก็บอกว่า "เร็วๆหน่อยครับรีบแก้เชือกที่ฝากรงก่อนแล้วผมจะบอกวิธีรักษาตาของคุณให้หายบอด" ชายตาบอดเอามือคลำๆกรงไปจนในที่สุดก็จัดการเปิดฝาออกมาได้ทันทีที่ฝากรงเปิดพ่อจอมกระล่อนก็กระโดดผลุงออกจากกรงวิ่งอ้าวไปเสียแล้วเมื่อลุงกับป้ากลับมาหมายจะบอกหลานชายว่าหาหนังสือไม่พบหลานชายก็หายไปจากกรงเสียแล้วเห็นแต่ชายตาบอดมายืนอยู่แทนที่คอยรับรู้ว่าจะรักษานัยน์ตาด้วยวิธีใดทั้งสามคนโดนตุ๋นอีกครั้งหนึ่งจนได้ ยอดกระล่อนวิ่งฝ่าเข้าไปในกอไม้ไผ่กอหนาใกล้แม่น้ำนั้นขณะที่เขาเดินเที่ยวสำรวจหาทางออกจากกอไผ่บังเอิญไปพบหม้อเก่าๆเข้าใบหนึ่งในหม้อมีทองคำเต็มโชคดีเสียนี่กระไรเขาเอาทองกลับบ้านไปให้ป้ากับลุง น่าขอบใจมหาสมบัตินั่นแท้ ๆ ครอบครัวของเขาร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีไปแล้วตอนนี้ป้ากับลุงยอมรับแล้วว่ายิ่งดุด่าหลานชายเท่าใดก็ไม่ทำให้เด็กคนนั้นเปลี่ยนนิสัยของเขาได้เลยทั้งสองคนจึงคิดว่าบางทีถ้าเราหาผู้หญิงที่ดี ๆ ให้แต่งงานกับมันสักคนหนึ่งเจ้าเด็กหนุ่งนี่อาจยุติการปั้นน้ำเป็นตัวเลิกเที่ยวเตร่ไม่ทำการทำงานเสียได้กระมัง แกจึงให้หลานชายแต่งงานกับสาวนางหนึ่งในหมู่บ้าน ดูท่าว่าการแต่งงานจะช่วยแก้ปัญหาไปได้ระยะหนึ่ง แต่สองสามเดือนต่อมาป้าและลุงเกิดตายลง พ่อจอมกระล่อนเริ่มเที่ยวโป้ปดมดเท็จหลองโกงผู้คนต่อไปเหมือนอย่างเคยอีก วันหนึ่งเขาเข้าไปเตร็ดเตร่อยู่ในป่า ไปพบเอาลูกเสือสองสามตัวนอนอยู่บนหญ้า เนื่องจากเขาเป็นหนุ่งนิสัยเลว จึงจับลูกเสือเหล่านั้นมาหักอุ้งเท้ามันเสีย ลูกเสือพากันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลัน เขาก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่าสะพึงกลัวออกมาจากที่ใดที่หนึ่งใกล้ๆ คงเป็นแม่ของลูกเสือเหล่านั้นนั่นเอง จอมมุสาจึงรีบวิ่งไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้.......... ชั่วครู่ต่อมาเสือแม่ลูกอ่อนก็วิ่งมาหาลูก พอเห็นลูกกำลังเจ็บปวดทุรนทุรายเพราะอะไร มันก็คาบลูกไปที่โคนต้นไม้เล็กๆต้นหนึ่ง ซึ่งมีใบสีเขียวๆ มันทึ้งใบไม้สองสามใบจากต้นใส่ปากเคี้ยว แล้วก็คาบใบไม้ในปากออกใส่อุ้งเท้าของลูกๆ แล้วพ่อยอดกระล่อนก็อัศจรรย์ใจเหลือ ที่ภายในไม่กี่นาทีแผลของลูกเสือก็หายเป็นปลิดทิ้งเจ้าหนุ่มคอยทีอยู่จนเสือทั้งแม่ลูกไปแล้ว เขาก็ขุดต้นไม้นั้นนำมาบ้าน เอามาปลูกในสนาม ตั้งชื่อว่า ต้นไทร นับแต่วันนั้นมา เขาเฝ้าดูแลต้นไม้อย่างระวังระไว บอกแก่ภรรยาว่า เทพเจ้าให้ต้นไม้นี้แก่เขา ใบของมันรักษาแผลได้ทุกชนิด รักษาโรคภัยได้สารพัดแม้กระทั่งช่วยคนตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมาก็ยังได้ ขอให้ภรรยาของเขาคอยรักษาต้นไม้ให้สะอาดสะอ้าน " อย่าเอาขยะมูลฝอยไปเทที่โคนต้นนะ ถ้าขืนทำต้นไม้จะเหาะหนีไปเสีย เขาพร่ำเตือนแล้วเตือนอีก แรกๆภรรยาก็ทำตามที่สามีบอก แต่ไม่ช้านางก็ขัดใจกับสามีที่รักต้นไม้มากกว่าตัวนาง นางเบื่อที่จะฟังคำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าของสามีอลู่แล้วด้วย วันหนึ่งเกิดวิวาทกันขึ้นเรื่องต้นไม้ นางจึงอารมณ์เสียสุดจะยับยั้ง ตะโกนใส่เขาว่า " ข้าจะเอาขยะไปเทใส่ต้นไม้เสียเมื่อไ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
นิทาน อาเซียน ประเทศ เวียดนาม เรื่อง จอม กะล่อนกาล ครั้ง หนึ่ง หนุ่ม เด็ก คน มี คน หนึ่ง พา กัน เรียก เขา ว่า เป็น เด็ก จอม กะล่อน ฉลาด คือ ซึ่ง อยู่ ห่าง จาก บ่า น ไป ไม่ ไกล นัก ส่วน ป้า ก็ อยู่ บ้าน ทำงาน บ้าน ลุง " ป้า ตกกระ ได ลง มา เลือด โชก ทีเดียว เขา วิ่ง ถลัน เข้าไป ใน บ้าน ตะโกน ลั่น"ป้า ครับ ป้า ลุง ถูก ควาย ขวิด ที่ ท้อง นา แน่ะ ดูเหมือน ขวิด เอา ท้อง ทะลุ เลย ป้า ก็ วิ่ง ถลา ออก จาก บ้าน ไป แล้ว กระนั้น ก็ ยัง รู้สึก ว่า ยัง ไม่ ทันใจ พอ ถึง หัวเลี้ยว ตรง มุม ถนน ป้า ก็ ชน โครม เข้า ให้ กับ ใคร คน หนึ่ง สามี ของ ป้า นั่นเอง กำลัง หอบ แฮ่ก ๆ เหงื่อ โซม กาย พบ พ่อ จอม กะล่อน ซ่อน อยู่ หลัง บ้าน ปิด ฝา เสีย แน่นหนา"อยู่ ใน นี้ แหละ จนกว่า ตะวัน จะ ตกดิน" ลุง ว่า ขณะ ที่ โยน ลง ใน แม่น้ำ ผม รู้ตัว ว่า ผิด ไป แล้ว ผม ก็ พร้อม แล้ว ที่ จะ ก้มหน้า รับ โทษ ผม มี หนังสือ เล่ม หนึ่ง ชื่อ ศิลปะ แห่ง การ พูด ป ด ขณะ ที่ ยอด กระ ล่อน คอย อยู่ ใน กรง เด็ก หนุ่ม ก็ ตะโกน เรียก"คุณ ตาบอด ครับ โปรด มา ทาง นี้ หน่อย ครับ เด็ก หนุ่ม ก็ บอก ว่า"เร็ว ๆ หน่อย ครับ รีบ แก้ เชือก ที่ ฝาก รง ก่อน จน ใน ที่สุด ก็ จัดการ เปิด ฝา ออก มา ได้ ทันที ที่ ฝาก รง เปิด หลาน ชาย ก็ หาย ไป จาก กรง เสีย แล้ว เห็น แต่ ชาย ตาบอด มา ยืน อยู่ แทนที่ บังเอิญ ไป พบ หม้อ เก่า ๆ เข้า ใบ หนึ่ง ใน หม้อ มี ทองคำ เต็ม โชค ดี เสีย นี่ กระไร ตอน นี้ ป้า กับ ลุง ยอมรับ แล้ว ว่า ยิ่ง ดุ ด่า หลาน ชาย เท่าใด ทั้ง สอง คน จึง คิด ว่า บางที ถ้า เรา หา ผู้หญิง ที่ ดีๆ ให้ แต่งงาน กับ มัน สัก คน หนึ่ง เนื่องจาก เขา เป็น ห นุ่ง นิสัย เลว พลัน ซึ่ง มี ใบ สี เขียว ๆ ขุด ก็ มา นำ บ้าน เขา ต้นไม้ นั้น ปลูก เอา มา ใน สนาม ตั้ง ชื่อว่า ต้นไทรนับ แต่ วัน มา นั้น เฝ้า ดูแล เขา ว่า เทพเจ้า ภรรยา แก่ ต้นไม้ อย่าง ระวัง ระไว บอก ให้ เขา แก่ ต้นไม้ นี้ ได้ ทุก ใบ ของ มัน รักษา แผล ชนิด อย่า เอา ขยะ มูลฝอย ไป เท ที่ โคน ต้น นะ ถ้า ขืน ทำ ต้นไม้ จะ เหาะ หนี ไป เสีย นาง จึง อารมณ์ เสีย สุด จะ ยับยั้ง ตะโกน ใส่ เขา ว่า "




















































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องผลการปฏิบัติงานจอมกะล่อนนิทานอาเซียนประเทศเวียดนาม

กาลครั้งหนึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งคนพากันเรียกว่าจอมกะล่อนเขาเป็นเด็กฉลาดแต่ก็เหมือนกับชื่อของเขาที่บอกกล่าวไว้ล่วงหน้าเขาใช้ความฉลาดส่วนใหญ่ไปในการเที่ยวพูดโป้ปดมดเท็จต่างๆนานาคือไม่มีผู้ใดรอดจากการเป็นเหยื่อให้เขาหลอกต้มไปได้เลยแม้แต่ป้าและลุงผู้ซึ่งเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่หลังจากพ่อแม่ของเขาตายจากไป

วันหนึ่งลุงของเขาออกไปไถนาซึ่งอยู่ห่างจากบ่านไปไม่ไกลนักส่วนป้าก็อยู่บ้านทำงานบ้านขณะที่เขาเฝ้าดูป้าทำอะไรง่วนอยู่ในครัวพ่อจอมกะล่อนก็เกิดความคิดแวบขึ้นมา
เขารีบย่องออกจากบ้านวิ่งไปท้องนาที่ลุงกำลังไถอยู่
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: