การหาว เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเอง ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ เกิดจากการที่ร่างกายของเรามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ในกระแสเลือดสูงจนเกินไป ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทางลมหายใจได้ทัน ร่างกายจึงต้องมีการปรับตัวโดยสูดลมหายใจเข้าให้ลึกขึ้น เพื่อที่ให้อวัยวะที่ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซอย่างปอด ได้ขยายตัวมากขึ้นและสูดเอาก๊าซออกซิเจนเข้าไปได้มากกว่าปกติ ในขณะเดียวกันก็หายใจออกโดยขับลมออกนานกว่าเดิม เพื่อให้ร่างกายได้กำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย ดังนั้นการหาวจึงไม่ได้เป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายแสดงออกเพื่อเตรียมพร้อมจะนอนหลับหรือต้องการพักผ่อนแต่เป็นปฏิกิริยาที่แสดงออกว่าร่างกายพร้อมที่จะตื่นตัว
หาวเป็นสัญญาณบอกโรคได้
อย่าเพิ่งตกใจคิดว่าหาวแล้วจะเกิดโรค จริงๆ แล้วการหาวเป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้ว แต่ในที่นี้หมายถึงกรณีที่เราหาวบ่อยหรือมากเกินกว่าปกติ อาจบอกว่าเราเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพได้ เช่น ปัญหาในเรื่องการนอน ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับสมองด้วย
การหาว ติดต่อกันได้
หากเพื่อนๆเคยสังเกตตัวเองจะเห็นว่าทุกครั้งที่เราเห็นคนอื่นหาว เราจะหาวตามทันที หรือคนอื่นเห็นเราหาว เค้าก็จะหาวตามเราเหมือนกัน ข้อสงสัยนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เพื่อนๆคิดไปเองนะคะ เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในต่างประเทศได้มีการทดสอบข้อสมมติฐานนี้ด้วยการเปิดวีดิโอคนหาวให้ดู พบว่าประมาณ 50% ของคนดูเริ่มหาวตาม การหาวตามกันแบบนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับลิงแชมแปนซี ลิงบาบูน ลิงกัง อีกด้วย
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ความสัมพันธ์ของคนที่เริ่มหาวมีผลต่อความไวในการหาวของคนอื่นด้วย พูดง่ายๆ คือ ยิ่งสนิท เช่น เพื่อนหรือคนในครอบครัว จะยิ่งหาวตามได้ง่ายกว่าคนแปลกหน้าค่ะ
นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุผลของพฤติกรรมการหาวติดต่อกันนี้ว่า เกิดจากระดับความสามารถในการเข้าใจแบบหยั่งรู้ถึงความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่น หรือที่เรียกว่า Empathy ส่งผลทำให้เกิดการแสดงออกร่วมกันกับผู้อื่น นั่นเองค่ะ ซึ่งยังรวมถึงอาการอื่นๆ เช่น หัวเราะตามคนอื่น ร้องไห้ตามคนอื่น เป็นต้น
เด็กทารกในครรภ์ก็หาวได้
แม้จะยังไม่ลืมตาดูโลก แต่เด็กทารกก็หาวเป็นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยค่ะ ก่อนหน้านี้มีคนเคยเสนอไว้ว่าทารกนั้นหาวเป็นจริงๆ นะ แต่กลับมีคนโต้แย้งว่าเป็นแค่การอ้าปากมากกว่า แต่ในภายหลังมีนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์จากกล้อง 4 มิติทีได้ถ่ายไว้ว่าเขาสามารถแยกแยะได้ว่าเด็กกำลังอ้าปากเฉยๆ หรือกำลังหาวอยู่ ดังนั้นสิ่งนี้จึงยืนยันได้ว่าเด็กทารกในครรภ์นั้นหาวเป็นจริงๆ
อย่างไรก็ตามเด็กทารกในครรภ์ไม่ได้หาวเพราะง่วงนอนเหมือนพวกเรา แต่การหาวจะเกี่ยวข้องกับการเติบโตของสมอง และยังเชื่อว่าเป็นอาการของเด็กสุขภาพดีอีกด้วย
คนเราหาวเฉลี่ย 6 วินาที
ระยะเวลาในการหาวแต่ละครั้งจะมากกว่า 3 วินาที แต่ละคนจะหาวสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6 วินาทีค่ะ
เวลาหาวทำไมถึงมีน้ำตาไหลออกมาด้วย นั้นก็เพราะเมื่อเราหาวมีผลให้บริเวณหน้ามีความกดอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเพียงเสี้ยววินาที ทำให้ลูกตาปรับตามไม่ทันและเพื่อป้องกันกระจกตาเสียหายต่อมน้ำตาจะปล่อยน้ำตาออกมาเคลือบทั่วดวงตาเพื่อให้ดวงตายังคงมีน้ำหล่อเลี้ยง
สรุปว่าการหาวเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ค่ะ อาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น เหนื่อย นอนไม่หลับ นอนไม่พอ กินอาหารประเภทแป้งมากกว่าเกินไป ฯลฯ การหาวไม่มีอันตรายใดๆ ไม่ต้องไปอั้นหาวนะ แต่ถ้าอยากรู้สึกสดชื่นควรดื่มน้ำมากๆ อย่าไปอยู่ในที่แออัด และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้หาวน้อยลงได้ค่ะ ตรงกันข้ามก็ตามถ้าหาวถี่ๆ ติดต่อกันนานมากๆ และรู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา ให้ลองหาหมอเพื่อปรึกษาสุขภาพได้เลยนะคะ