5) ผู้ตามที่มีประสิทธิผล (Effective followers) หมายถึง ผู้ตามที่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ตนเอง มีพฤติกรรมกล้าแสดงออก มีความรู้ความสามารถในการทำงาน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ มีความจงรักภักดี ให้ความร่วมมือ มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ผู้ตามประเภทนี้เป็นบุคคลที่มีภาวะผู้ตาม( Followership) หรือเป็นผู้ตามที่เป็นแบบอย่าง(Exemplary followers) ผู้ตามลักษณะนี้ถือว่าเป็นผู้ตามในอุดมคติที่ผู้นำต้องการศิลปะการเป็นผู้ตามที่ดี : ศักยภาพที่ต้องพัฒนา
1. ยอมรับในลักษณะการบริหารของผู้นำผู้นำแต่ละคนอาจมีลักษณะ (STYLE) การบริหารงานที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจไม่ตรงกับลักษณะการท างานของเรา ผู้ตามที่ดีต้องให้การยอมรับไม่ควรคิดที่จะไปเปลี่ยนนาย แต่ควรหาทางส่งเสริมเติมในสิ่งที่ผู้นำขาด ผู้ตามส่วนใหญ่มักมองจุดอ่อนของผู้นำโดยเฉพาะหากเป็นจุดแข็งของตน เช่น ตนเองเป็นคน สนุกสนานแต่ผู้นำเป็นคนนิ่ง ขรึม พูดน้อย ก็มักมองว่านายมีจุดอ่อน เป็นคนหยิ่ง ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ เป็นต้น
2. อ่านเกมผู้นำให้ออก เข้าทำนองทำงานต้องรู้ใจนาย ผู้ตามที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเข้าใจวิสัยทัศน์ เป้าหมายงาน เป้าหมายขององค์กรให้ได้และที่สำคัญคือต้องมีทักษะสำคัญคือการรู้จักลำดับความสำคัญของ
เขา แล้ววางแผนงานของตนให้สอดคล้องกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของนาย
3. ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร โดยเฉพาะผู้ตามที่พึ่งเข้ามาใหม่ หรือองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรหรือค่านิยมขององค์กร หากไม่ปรับตัวปรับใจแล้วนอกจากจะไม่มีความสุขกับการทำงานแล้ว ตนเองยังอาจถูกมองว่าเป็นคนมีปัญหาขององค์กร ซึ่งผู้นำส่วนใหญ่คงไม่อยากเห็นผู้ที่ทำตัวเป็นแกะดำในองค์กร
4. พัฒนาเองอยู่เสมอ ไม่ต้องรอให้ผู้นำบอก แต่พิจารณาเห็นว่าสิ่งใดที่ตนเองยังไม่รู้ ไม่เข้าใจก็ควรอย่างยิ่งต้องหาวิธีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเองอยู่เสมอ เรียกว่าการ ลับเลื่อยให้คม (SHARPEN THE SAW)รวมทั้งการเตรียมตัวพัฒนาเองเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในองค์กร ไม่ทำตัวเป็นแบบชาล้นถ้วย
5. ต้องมีนิสัยเชิงรุก (BE PROATIVE) หมายถึง ไม่ต้องรอให้นายสั่ง โดยเฉพาะงานที่ตนเองได้รับ
มอบหมายให้รับผิดชอบ ผู้นำส่วนใหญ่ชอบผู้ที่ทำงานเองได้อย่างเข้าใจ จัดลำดับความสำคัญและก่อนขหลัง
ได้ไม่ต้องรอให้บอก ให้สั่งที่ละขั้นตอน 3
6. รักษาสัญญาหรือข้อตกลง เมื่อได้รับปากหรือตกลงสิ่งใดไว้ต้องพยายามทำให้ได้ตาม สัญญา หรือที่รับปากไว้ แน่นอนว่าความไว้เนื้อเชื่อใจก็จะมีพอกพูนตามมา ยิ่งทำได้ตามสัญญานายยิ่งไว้วางใจในทางกลับกัน หากทำไม่ได้ นายก็จะเริ่มไม่มั่นใจ หากทำไม่ได้มากขึ้น ก็จะมีการตรวจสอบมากขึ้นเรื่อยๆ
7. สื่อสารและสามารถถ่ายทอดความคิดออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ โดยเฉพาะการจะสื่อสารกับผู้นำต้องใช้เวลาในการสื่อสารอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาน้อย ได้สาระสำคัญ ไม่ยืดเยื่อน่ารำคาญ และเข้าใจง่าย
8. กล้าที่จะให้ข้อมูลย้อนกลับทั้งด้านดีและด้านร้าย คนส่วนใหญ่คิดว่านายคงต้องการได้ยินแต่สิ่งดีๆ ความเชื่อแบบนั้นอาจจะโบราณไปแล้ว ผู้บริหารยุคใหม่ต้องการคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อองค์กร แต่ต้องเป็นข้อเสนอแนะที่ปราศจากอคติ แต่มีเหตุและผลที่อธิบายได้และมีข้อมูลน่าเชื่อถือ
9. ทำงานเป็นทีมเป็น ท างานเป็นทีมหมายความว่าเขาสามารถทำงานกับคนได้ทุกแบบ ผู้ตามบาง
คนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถแต่ไม่สามารถปรับตัวทำงานกับผู้อื่นได้ มองเห็นแต่จุดด้อยของผู้อื่น โดยคิดว่าตนเองมีสามารถเหนือผู้อื่น ผู้ตามแบบนี้มักจะถูกปฏิเสธการท างานร่วมจากผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ จึงมักจะต้องให้นายหรือผู้นำออกหน้านำให้เสมอ
ศิลปะ 9 ประการเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะหรือศักยภาพการเป็นผู้ตามที่ดีที่ผู้นำส่วนใหญ่ต้องการ ซึ่งนอกจากผู้นำที่ดีจะต้องพยายามพัฒนาผู้ตามของตนเองแล้ว ผู้ตามที่ดีก็จำเป็นต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อการเป็นผู้ตามที่ดีด้วย จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีภาวะผู้ตามที่ดี (Followership) และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเกิดตามมาคือการเป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Organization)